• กำแพงเพชร
• เชียงใหม่
• เชียงราย
• ตาก
• น่าน
• นครสวรรค์
• พิษณุโลก
• พะเยา
• เพชรบูรณ์
• แพร่
• พิจิตร
• แม่ฮ่องสอน
• ลำพูน
• ลำปาง
• สุโขทัย
• อุตรดิตถ์

• กาฬสินธุ์
• ขอนแก่น
• ชัยภูมิ
• นครราชสีมา
• นครพนม
• บุรีรัมย์
• มหาสารคาม
• มุกดาหาร
• ยโสธร
• ร้อยเอ็ด
• เลย
• ศรีสะเกษ
• สกลนคร
• สุรินทร์
• หนองคาย
• หนองบัวลำภู
• อุบลราชธานี
• อุดรธานี
• อำนาจเจริญ

• กรุงเทพฯ
• กาญจนบุรี
• ฉะเชิงเทรา
• ชัยนาท
• นนทบุรี
• นครปฐม
• นครนายก
• ประจวบคีรีขันธ์
• ปทุมธานี
• ปราจีนบุรี
• เพชรบุรี
• ราชบุรี
• ลพบุรี
• สิงห์บุรี
• สุพรรณบุรี
• สมุทรสาคร
• สมุทรสงคราม
• สมุทรปราการ
• สระแก้ว
• สระบุรี
• อยุธยา
• อ่างทอง
• อุทัยธานี 

• ชลบุรี
• ระยอง
• จันทบุรี
• ตราด

• กระบี่
• ชุมพร
• ตรัง
• นครศรีธรรมราช
• นราธิวาส
• ปัตตานี
• พังงา
• พัทลุง
• ภูเก็ต
• ยะลา
• ระนอง
• สตูล
• สงขลา
• สุราษฎร์ธานี

สมุทรสาคร
สมุทรสาคร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “มหาชัย” เป็นจังหวัดเล็กๆ ตั้งอยู่บนปากน้ำท่าจีน ห่างจากทะเลเพียง 2 กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมและการประมง เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำทะเล จึงมีการประกอบอาชีพด้านการประมงอย่างกว้างขวาง มีเรือประมงที่ทันสมัยกว่า 1,000 ลำ ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ในแต่ละปี นับได้ว่าอยู่ในอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีนาเกลือมากที่สุดด้วย และในอดีตยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา เมื่อคราวพระเจ้าเสือเสด็จประพาสทางชลมารค
                    สมุทรสาคร เดิมเรียกกันว่า “ท่าจีน” เพราะเป็นตำบลใหญ่อยู่ติดอ่าวไทย มีชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีนนำสำเภาเข้ามาจอดเทียบท่าค้าขายกันมาก จึงเรียกติดปากว่า “ท่าจีน” จนกลายเป็นชื่อตำบล เมื่อปี พ.ศ. 2091 ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิโปรดให้สร้างเมืองใหม่ขึ้นอีกหลายเมือง ด้วยมีพระราชประสงค์จะใช้เป็นที่ระดมพลสำหรับสู้รบกับพม่า บ้านท่าจีนจึงยกฐานะเป็นเมือง “สาครบุรี” ตั้งแต่นั้นมา จนถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้เปลี่ยนชื่อเมืองสาครบุรีเป็นเมืองสมุทรสาคร ครั้นถึงรัชสมัยของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปการปกครอง มีการจัดระบบราชการส่วนภูมิภาคเป็นมณฑล เทศาภิบาล และมีการประกาศจัดตั้งสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทยขึ้นที่ตำบลท่าฉลอม เมื่อปี พ.ศ. 2449 ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินตำบลท่าฉลอมถึงสองครั้ง ต่อมาใน พ.ศ. 2456 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการให้ทางราชการเปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” ทั่วทุกแห่ง เมืองสมุทรสาคร จึงได้เปลี่ยนเป็น “จังหวัดสมุทรสาคร” มาจนทุกวันนี้ ส่วนคำว่า “มหาชัย” ที่คนชอบเรียกกันนั้น เป็นชื่อของคลองที่ขุดขึ้นเพื่อตัดความคดเคี้ยวของคลองโคกขามแต่เดิม มาทะลุออกตัวเมืองท่าจีน

               จังหวัดสมุทรสาครมีเนื้อที่ 851 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอบ้านแพ้ว 
                    ทิศเหนือ ติดต่อจังหวัดนครปฐม 
                    ทิศใต้ ติดต่ออ่าวไทย 
                    ทิศตะวันออก ติดต่อกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ 
                    ทิศตะวันตก ติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม และราชบุรี

แหล่งท่องเที่ยว
ตลาดน้ำบ้านหลักห้า (05.00-08.00 น.) ตลาดน้ำแบบดั้งเดิม มีวิถีชีวิตแบบชุมชนริมน้ำอันหลากหลายให้ชม
ตลาดหลักสาม ตลาดเก่าแก่ในชุมชนเก่าแก่ในชุมชนริมน้ำ มีร้านค้าเป็นห้องแถวไม้ขนานไปตามลำคลอง และมีท่าเรือสำหรับนั่งเรือชมบรรยากาศสองฝั่งคลองดำเนินสะดวก
วัดโกรกกราก ตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีน พระประธานในโบสถ์ไม้สักเป็นพระพุทธรูปศิลาแลงปางมารวิชัย และรูปเหมือนหลวงปู่กลับ อดีตเจ้าอาวาสต่างใส่แว่นดำ แปลกไปจากที่พบเห็นทั่วไป
วัดโคกขาม วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 หน้าบันของโบสถ์เป็นม้แกะสลักรูปสัตว์และดอกไม้มงคลอย่างสวยงาม และขุดพบซากเรือโบราณที่เชื่อว่าเป็นเรือพระที่นั่งของพระเจ้าเสือ
วัดช่องลม ภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อหินแดง 11 นิ้ว  พระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบอยุธยาตอนปลายและในวิหารหลวงปู่แก้วยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกแอ่งกินรังหลายพันตัว นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุสรณ์ของรัชกาลที่ 5
วัดนางสาว มีโบสถ์มหาอุดเป็นโบสถ์โบราณฐานโค้งรูปเรือสำเภา ไม่มีหน้าต่าง และวิหารคู่สองหลังยังประดับตกแต่งด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรงดงาม
วัดป่าชัยรังสี มีโบสถ์หลังใหญ่ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนาและภาคกลาง และประดับตกแต่งด้วยไม้แกะสลักอย่างอลังการ
วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตพระพุทธรูปหินทรายแดงปางมารวิชัย ซึ่งชาวดำเนินสะดวกให้ความเคารพนับถือมาหลายชั่วคน
วัดใหญ่จอมปราสาท วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาอายุราว 500 ปี ปีตามซากโบราณสถานภายในวัด  และมีโบสถ์หลังใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมอ่อนช้อยงดงามตามแบบอยุธยา
ศาลพันท้ายนรสิงห์ (08.00-20.00 น.)ตั้งอยู่ริมคลองโคกขามตามเหตุการณ์ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ มีหลักประหาร ศาลเจ้าแม่ศรีนวล และรูปปั้นพันท้ายนรสิงห์ประดิษฐานอยู่ในศาลาใหญ่
แหล่งดูนกชายเลนโคกขาม ส่วนหนึ่งของอ่าวไทยมีพื้นที่เป็นป่าชายเลน หาดเลน นากุ้ง และนาเกลือ จึงเหมาะเป็นถิ่นอาศัยของนกชายเลนที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาวไม่ต่ำกว่า 50 ชนิด โดยเฉพาะนกชายเลนปากช้อนที่หายากใกล้สูญพันธุ์ในระดับโลก
ที่กิน
ครัวช่องลม (10.30-22.00 น.)        034-81-8544                 อาหารแนะนำ หอยหลอดผัดฉ่า
ชายน้ำชายคา                                     -                                   อาหารแนะนำ ปลาหมอเทศแดดเดียว
บ้านสวนริมคลอง (10.30-23.00 น.)    034-85-7365            อาหารแนะนำ ปูทะเลหลน
ฟาร์มอ่างทอง                              034-47-1678                     อาหารแนะนำ ขี้เมายอดมะพร้าว
ศรีสุวรรณโภชนา (08.00-20.00 น.)034-48-1052                อาหารแนะนำ ปลากระบอกต้มส้ม

ที่ซื้อของ
ไก่ปลากรอบ(06.00-20.00 น.)                  034-81-9247     สินค้าแนะนำ ปลาแก้ว
ตลาดทะเลไทย                                               -                       สินค้าแนะนำ อาหารทะเลสด
ร้านเครื่องเบญจรงค์                                  034-47-2551      สินค้าแนะนำ เครื่องเบญจรงค์
อุตสาหกรรมทวีพงษ์ (07.00-20.30 น.)       034-41-1291       สินค้าแนะนำ ปลาทิพ ปูอัด
อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์ (08.00-17.00 น.) 034-41-1383 สินค้าแนะนำ น้ำพริก

ระยะทางจากอำเภอเมืองไปยังอำเภอต่างๆ
อำเภอกระทุ่มแบน                       14        กิโลเมตร
อำเภอบ้านแพ้ว                           23        กิโลเมตร